สาระเรื่องรถ - ยาง

ยางรถยนต์ควรได้รับการตรวจเช็กสภาพให้พร้อมกับการขับขี่ในช่วงหน้าฝน ยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพหรือไม่พร้อมใช้งาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ มาดู 5 ข้อสำคัญที่ควรเช็กสำหรับยางรถยนต์ ให้คุณพร้อมขับลุยฝน1.สภาพของดอกยาง: ดอกยางมีหน้าที่ช่วยยึดเกาะถนนและรีดน้ำออกไปจากหน้ายาง ควรเปลี่ยนยางใหม่ เมื่อดอกยางมีความลึกต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร2.การตั้งศูนย์ล้อ: การที่ยางไม่ได้รับการตั้งศูนย์จะทำให้ดอกยางเสื่อมเร็วและเสื่อมไม่เสมอกัน3.สลับยาง ทุกๆ 1 หมื่นกิโลเมตร เพื่อให้ดอกยางของทุกล้อสึกเท่าๆกัน4.ตรวจเช็กลมยาง: ควรเช็กลมยางเดือนละ 1 ครั้งและเช็คขณะที่ยางเย็นหรือไม่เพิ่งวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตรเท่านั้น5.อายุยางรถยนต์ โดยทั่วไปยางรถยน์จะมีอายุการใช้งาน ประมาณ 4-5 ปี โดยขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพียงเช็กให้ครบ 5 ข้อนี้ คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่ายางรถยนต์ของคุณพร้อมสำหรับลุยฝนแล้ว

รู้หรือไม่ว่าการตรวจสภาพยางรถยนต์ให้พร้อมกับการใช้งาน ผู้ขับขี่สามารถทำการตรวจสภาพเองได้ ง่ายกว่าที่คิด ส่วนต่างๆ ของยางรถยนต์ที่ควรตรวจสอบมีดังนี้

มาดูเคล็ดลับการเลือกยางรถยนต์ง่ายๆให้เหมาะกับฤดูฝนที่กำลังมาถึง บี-ควิก ขอแนะนำ เคล็ดลับ 3 ข้อง่ายๆในการเลือกยาง ที่จะช่วยให้คุณปลอดภัยและมั่นใจตลอดการขับขี่ ในช่วงฤดูฝน1.เลือกดอกยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำสูง คือ ดอกยางแบบทิศทางเดียว หรื Directional ที่มีคุณสมบัติ ช่วยรีดน้ำได้ดี ป้องกันอาการเหินน้ำ (Hydroplaning) ที่มักพบบ่อยในฤดูฝน และยังช่วยรักษาสมดุลของรถยนต์ขณะขับขี่เมื่อเจอฝนอีกด้ว2.เลือกร่องดอกยางที่เหมาะกับการรีดน้ำ และสามารถช่วยหลีกเลี่ยงอาการเหินน้ำได้ ร่องดอกยาง คือ ร่องที่ลึกลงไปจากหน้ายางหรือร่องที่แทรกอยู่ระหว่าง ดอกยาง ทำหน้าที่ในการรีดน้ำออกจากหน้ายาง เพื่อช่วยให้ดอกยางสัมผัสพื้นถนนขณะขับรถบนถนนที่เปียก ร่องยางที่เหมาะสมกับฤดูฝน ควรมีความลึกอย่างน้อย 3 มิลลิเมตร และมีลวดลายเป็นริ้วแฉก หากร่องยางมีความตื้นน้อยจะทำให้ยางไม่สามารถรีดน้ำได้ดี ทำให้มีน้ำแทรกระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน อาจทำให้เกิดการลื่นไถลในขณะขับขี่ได้3.หลีกเลี่ยงการใช้ยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ ชำรุด หรือ มีอายุมากกว่า 5 ปีนับจากวันผลิต เนื่องจากเนื้อยางจะแข็ง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนน้อยลง การขับขี่บนถนนเปียกจึงเป็นไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร

การตั้งศูนย์ล้อ คือ การตั้งค่ามุมต่างๆ ของล้อหน้าและล้อหลังให้ถูกต้องตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนดมาการตั้งศูนย์ล้อ ช่วยให้การขับขี่ของรถยนต์สมดุลและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่าง ล้อและยางรถยนต์ ควรทำการตั้งศูนย์ล้อ เมื่อรถของท่านมีอาการ ดังนี้1.พวงมาลัยเอียง แฉลบซ้าย-ขวา แม้จะขับขี่บนพื้นเรียบทางตรง2. วงเลี้ยวซ้าย-ขวาไม่เท่ากัน และมีเสียงดังขณะเข้าโค้ง3. ยางมีรูปแบบการสึกผิดปกติ ไม่เสมอกัน เช่น สึกเฉพาะบริเวณไหล่ยาง เป็นต้นนอกจากนั้น การตั้งศูนย์ ควรทำทุกๆ 10,000 กม. หรือ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อป้องกันการสึกของดอกยางก่อนเวลาอันควร รวมไปถึงยืดอายุการใช้งานของยาง และ ให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลมยางรถยนต์ อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ผู้ขับขี่ไม่ควรมองข้าม โดยทั่วไปลมยางรถยนต์สามารถแบ่งได้เป็น ลมยางแบบธรรมดา และ ลมยางไนโตรเจนลมยางแบบธรรมดา มีไนโตรเจน ออกซิเจน ไอน้ำและก๊าซต่างๆ เป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความชื้นปะปนอยู่ ส่งผลให้แรงดันลมยางไม่คงที่เมื่อเกิดความร้อนบริเวณยางรถยนต์ต่างจากลมยางไนโตรเจนที่มีจุดเด่น คือ มีแรงดันคงที่มากกว่า เพราะประกอบไปด้วยก๊าซไนโตรเจนบริสุทธิ์ถึง 93% ซึ่งผ่านกระบวนการแยกความชื้นออกแล้ว จึงทำให้มีแรงดันลมยางคงที่มากกว่าลมยางปกติ เมื่อแรงดันลมยางที่คงที่ จะช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ลดเสียงดังของยางรถยนต์ เมื่อสัมผัสกับพื้นและตะเข็บรอยต่อถนนนอกจากนี้ ลมยางไนโตรเจนมีขนาดโมเลกุลที่ควบแน่นและใหญ่กว่า จึงมีอัตราการรั่วซึมน้อยกว่า ไม่ต้องเติมบ่อยเหมือนลมยางธรรมดา โดยปกติแล้วรถที่เติมลมยางไนโตรเจน ควรตรวจเช็กลมยางเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการตรวจสอบสภาพยางไปในตัวและที่สำคัญ ยังช่วยลดโอกาส ยางระเบิด เนื่องจากไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย มีการเสียดสีกันของโมเลกุลน้อยทำให้แรงดันลมมีการเปลี่ยนแปลงน้อยตามด้วย จึงทำให้ลดโอกาส ยางระเบิดจากการเกิดความร้อนสะสม จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง หรือบรรทุกของหนักเป็นประจำ

รู้หรือไม่ว่าการจอดทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้นำไปขับใช้งาน สามารถทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สึกหรอได้ รวมถึงลมยางรถยนต์ที่จะค่อยๆ อ่อนลง เนื่องจากน้ำหนักของรถยนต์ที่กดทับลงบนยางการจอดรถทิ้งไว้เกิน 1 เดือน ทำให้มีการกดทับในบริเวณเดิมๆ ของหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นหรือที่เรียกกันว่า Flat Spotting ลักษณะอาการคือ โครงยางไม่คืนตัวและเสียรูปทรง เมื่อนำยางที่เสียรูปทรงไปใช้งาน จะทำให้ควบคุมรถยนต์ได้ยาก รถมีอาการรถสั่น และอาจทำให้ยางระเบิดได้อีกด้วยดังนั้น ก่อนนำรถกลับมาใช้งาน ควรตรวจเช็กความพร้อมใช้งานรถยนต์เพื่อความปลอดภัยได้ ฟรี! ที่ บี-ควิก ทุกสาขาทั่วประเทศ
